นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอสซี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า วันที่ 23 พ.ค.นี้จะเซ็นสัญญาซื้อขบวนรถใหม่ 46 ขบวน รวม 184 ตู้ วงเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท แยกเป็นของบริษัท CRRC ฉางชุนจากประเทศจีน 24 ขบวน และบริษัท ซีเมนส์ จากประเทศเยอรมนี 22 ขบวน มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
สำหรับรถขบวนใหม่จะใช้เวลาผลิต 2 ปีครึ่ง ภายในปลายปี 2561 จะทยอยนำมาใช้บริการในเส้นทางเดิมและส่วนต่อขยายใหม่ที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) จะจ้างบริษัทเดินรถให้ระยะยาว 2 เส้นทาง ได้แก่ แบริ่ง-สมุทรปราการ 15 ขบวน และหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต 21 ขบวน ซึ่งนับว่าเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของบริษัท ซึ่งรถที่สั่งซื้อจะรองรับการเดินทางได้อีกกว่า 10 ปี
ทั้งนี้บริษัทพร้อมจะเดินรถให้ กทม. ในรูปแบบการจ้างเหมือนกับส่วนต่อขยายปัจจุบัน อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดร่วมกับ บจ.กรุงเทพธนาคม รัฐวิสาหกิจของ กทม. สำหรับค่าจ้างเดินรถจะอ้างอิงระยะเวลาการจ้าง จำนวนรถที่วิ่ง อาจจะเป็นราคาเดียวกับส่วนต่อขยายเดิม เฉลี่ยอยู่ที่ปีละกว่า 1,000 ล้านบาท
หากบีทีเอสเดินรถจะทำให้การเดินรถต่อเนื่อง เพราะเป็นการเดินรถต่อเชื่อมกับโครงข่ายเดิม อีกทั้งจะทำให้การเปิดใช้เส้นทางแบริ่ง-สมุทรปราการรวดเร็วขึ้น คาดว่าปลายปี 2559 จะเริ่มทดลองเดินรถได้ 1 สถานีจากแบริ่ง-สำโรง จะให้ประชาชนร่วมทดลองด้วยเป็นบางช่วงเวลา และต้นปี 2560 จะเปิดเป็นทางการ ขณะที่การเปิดใช้ตลอดเส้นทางขึ้นอยู่กับงานก่อสร้างโยธา คาดว่าประมาณปลายปี 2561-2562 จะเปิดบริการได้
