ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
การไหลเวียนของประชากรอาเซียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ใช่ว่าจะเริ่มเดินทางกันอย่างเสรีหลังจากเปิดประชาคมอาเซียน แต่การเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกันกลับมีมานานนับตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์
จนกระทั่งการเดินทางไปมาระหว่างกันเริ่มซาลงนับตั้งแต่สงครามเย็นเริ่มปะทุขึ้น แต่เมื่ออาเซียนเริ่มเปิดไปมาหาสู่กันมากขึ้นท่ามกลางโลกเสรีทุนนิยม ทำให้สมาชิกหลายชาติไม่สามารถพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตไปอย่างเท่าเทียมกัน นำไปสู่การไหลออกของแรงงาน เพื่อออกแสวงหาความมั่งคั่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ดั่งเหตุสลดครั้งล่าสุดเกี่ยวข้องกับแรงงานข้ามชาติอย่างเหตุเรือไม้สองชั้นสภาพผุพังที่บรรทุกชาวอินโดนีเซียทั้งหมด 97 คน รวมทั้งเด็กและสตรี ข้ามฝั่งจากมาเลเซียไปยังอินโดนีเซีย ล่มนอกชายฝั่งห่างจากมาเลเซียไป 20 กิโลเมตร โดยสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ชาวอินโดนีเซียที่โดยสารมากับเรือลำดังกล่าวเป็นแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย โดยมีตัวเลขผู้สูญหายทั้งสิ้น 37 คน ส่วนอีก 60 คนได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยของมาเลเซียแล้ว ขณะเดียวกันผู้รอดชีวิตบางส่วนสามารถว่ายนํ้าขึ้นฝั่งเพื่อเอาชีวิตรอด และได้รับการช่วยเหลือจากเรือขนส่งสินค้า
นายโมฮัมเหม็ด ฮัมบาลี ยากุม หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการพื้นที่จากหน่วยลาดตระเวนชายฝั่งมาเลเซีย กล่าวว่า ผู้รอดชีวิตจากเรือลำดังกล่าวกว่า 60 คนที่ได้รับการช่วยเหลือในเบื้องต้น ถูกจับภายใต้ข้อหาลักลอบเข้าเมือง กระนั้นก็ตาม เหตุการณ์การหลบหนีเข้าออกประเทศมาเลเซียโดยเรืออย่าผิดกฎหมายมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง โดยในจาการ์ต้าโพสต์ยังระบุอีกว่า จำนวนแรงงานอินโดนีเซียผิดกฎหมายในมาเลเซียสูงขึ้นถึง 2 ล้านคน โดยอาศัยช่องทางการเดินทางดังกล่าว
มาเลเซีย หนึ่งในประเทศร่ำรวยของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นแม่เหล็กดึงดูด แรงงานเถื่อนจากอินโดนีเซีย รวมไปถึงประเทศที่ยากจนกว่าในอาเซียนเข้ามาแสวงโชค โดยแรงงานส่วนใหญ่ของอินโดนีเซียที่เข้าไปทำงานจะอยู่ในส่วนของการปลูกปาล์มน้ำมัน และแม่บ้าน
เว็บไซต์ business-in-asia.com ระบุค่าแรงขั้นต่ำในมาเลเซียอยู่ประมาณ 318 บาท ขณะที่ค่าแรงของอินโดนีเซียที่เพิ่งจะมีการปรับขึ้นเฉพาะในกรุงจาการ์ต้า เมื่อปีที่ผ่านมาอยู่ประมาณ 137-251 บาท หมายความว่าในจังหวัดอื่น ๆ ของอินโดนีเซีย จากการรวบรวมผ่านเว็บไซต์ wageindicator.org อยู่ที่ประมาณ 82-171 บาทต่อวัน ไม่น่าแปลกใจนักที่ชาวอินโดนีเซียเลือกแสวงโชคเสี่ยงตายไปยังมาเลเซีย
นอกจากมาเลเซียแล้ว สิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่มีค่าแรงขั้นต่ำสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้หลายแรงงานจากหลายประเทศทั้งในและนอกภูมิภาคต่างมุ่งหมายที่จะเข้าไปหางานในประเทศแห่งนี้ จนทำให้กระแส "เกลียดต่างชาติ" ปะทุขึ้นในประเทศ ที่ชาวสิงคโปร์กลัวว่าต่างชาติจะเข้ามาแย่งงานและมาเบียดบังสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่พวกตนสมควรได้รับ เช่น การบริการขนส่งมวลชน แต่อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ยังต้องพึ่งแรงงานต่างชาติอยู่ ไม่ว่าจะเป็นงานในภาคส่วนการก่อสร้าง งานจำพวกแม่บ้าน หรืองานที่ใช้แรงงานหนัก
ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยเองที่เป็นศูนย์รวมของแรงงานจากประเทศอนุลุ่มน้ำโขง อย่าง กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ที่มีค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 65 บาท 108 บาท 18 บาท และ 103 บาทต่อวันตามลำดับ ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไทยรุดหน้าไปมากกว่าทำให้ไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ดึงดูดแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านด้วยค่าแรงที่สูงกว่าโดยแรงงานส่วนใหญ่จากประเทศ CLMV จะเข้ามาอยู่ในภาคการประมง ภาคการเกษตร ภาคการก่อสร้าง และภาคบริการ อย่างการเป็นบริกรตามร้านอาหารต่างๆ