มีลูกค้าบางท่าน ซื้อที่ดินและพร้อมสิ่งปลูกสร้าง หรือนำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างไปจำนองไว้กับธนาคาร ต่อมาอาจจะติดปัญหาหลาย ๆ ทำให้ไม่สามารถส่งค่างวดคือต้นเงินและดอกเบี้ยแก่ธนาคารได้ ต่อมาธนาคารอาจะต้องฟ้องร้อง และนำยึดที่ดินออกขายตลาด กรณีเป็นลักษณะอย่างนี้ ท่านจะหาทางออกอย่างไรได้บ้าง ขอแนะนำเป็นกรณีต่อไป
1.กรณีที่ธนาคารยังไม่ฟ้องร้องต่อศาล หรือฟ้องร้องแล้ว แต่ยังไม่ได้ขายทอดตลาด หากท่านคิดว่าไม่สามารถผ่อนธนาคารได้อีกต่อไป แนะนำให้ลูกค้านำบ้านออกขายดีกว่า อย่างน้อยที่สุดลูกค้าจะมีเงินเหลือไว้ทำทุนอยู่ก้อนหนึ่ง หากท่านปล่อยธนาคารเข้าไปยึดและขายทอดตลาด ถึงตอนนี้ดอกเบี้ยจะปรับเพิ่มขึ้นสูงมาก จนทำให้หนี้ท่วมราคาบ้าน เมื่อขายทอดตลาดแล้ว ยังมีหนี้ค้างอยู่อีก ธนาคารสามารถตามไปยึดทรัพย์สินอื่น ๆ หรืออายัดเงินเดือนของลูกค้าได้อีก เหตุที่ท่านควรจะรีบขาย เพราะเมื่อลูกค้าผิดนัดชำระหนี้ 3 งวด ธนาคารถือว่าเป็นหนี้เอ็นพีแอล ธนาคารจะปรับดอกเบี้ยจากปกติร้อยละ 7 เปอร์เซนต์ต่อปี เป็นอัตราดอกเบี้ยผิดนัดประมาณร้อยละ 18 ต่อปี กว่าธนาคารจะฟ้องและขายทอดตลาด ดอกเบี้ยก็เพิ่มสูงขึ้นท่วมราคาทรัพย์สินของท่าน ฉะนั้นหากถึงขั้นตอนขายทอดตลาด ท่านไม่มีโอกาสจะมีเงินเหลือเลย ตรงกันข้ามจะมีภาระหนี้อีกหลังขายทอดตลาด และหากเกิน 1 ล้านบาท ธนาคารก็ยังสามารถไปฟ้องท่านเป็นคดีล้มละลายได้อีก ปรากฏว่ามีลูกค้าอยู่จำนวนมากไม่เข้าใจคิดว่าธนาคารฟ้องร้องและขายทอดตลาดแล้วก็จบ แต่ความจริงไม่จบ เพราะหนี้สินยังไม่หมด
2.กรณีที่ท่านคิดว่ายังสามารถผ่อนต่อได้อีก หรือหาคนมาช่วยในการผ่อนได้อีก แต่ลูกค้าผิดนัดชำระหนี้กับธนาคารหลายงวดแล้ว เช่นนี้ท่านอาจจะต้องเข้าไปปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร ขอผ่อนให้น้อยลง แต่ถ้าเลยเถิดไปถึงธนาคารฟ้องแล้ว ถ้าเขาไม่ยอมให้ปรับโครงสร้างหนี้ ท่านทำได้ 2 อย่าง คือ ขายบ้าน หากเสียดายไม่อยากขาย แนะให้หาคนมาเปลี่ยนมือจากลูกค้าไป ท่านก็สามารถผ่อนต่อไปได้
3.หากท่านประสงค์จะขายบ้าน เพราะคิดว่าผ่อนต่อไปไม่ไหว ขอแนะนำให้ท่านฝากขายกับบริษัท รับฝากขายบ้านจะช่วยขายบ้านให้ท่านได้เร็วกว่า แต่ท่านก็ต้องเลือกบริษัทที่มีชื่อเสียงและทำงานให้ท่านจริง ๆ เขาจะทำการตลาดช่วยการขายให้แก่ท่าน จะทำให้ท่านขายบ้านเร็วยิ่งขึ้น ท่านเสียเพียงค่านายหน้า 3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับดอกเบี้ยที่ท่านจะต้องชำระให้แก่ธนาคารในอัตราร้อยละ 18 ต่อปี แล้ว ถือว่าถูกมาก อย่างบริษัท โฮม ดี ดี จำกัด เราเปิดทำการมาเป็น 10 ปี เรามีลูกค้าที่โทรมาสอบถามซื้อบ้านแต่ละวัน แต่ละเดือน จำนวนมาก จึงมีโอกาสที่จะขายได้ทันที หากไม่สามารถขายได้ในทันที บริษัทจะทำการตลาดโดยถ่ายรูปมาโฆษณาในเว็บ www.homedd.co.th, www.baansdd.com, https://www.facebook.com/homedd.athiwat โดยเฉพาะเว็บโฮมดีดี เรามีลูกค้าเข้าชมวันละพันกว่าคน หลังจากนั้นบริษัทก็จะติดป้ายให้ หากท่านมีปัญหาข้อกฎหมาย เรามีฝ่ายกฎหมายให้คำปรึกษาฟรีตลอดเวลา