เมื่อต้องการคิดถึงการเปลี่ยนที่อยู่อาศัยใหม่ สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาในเรื่องแรก ๆ ว่าจะซื้อหรือจะเช่า เพื่อใช้อยู่อาศัยจริง ๆ เรื่องนี้อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ของบางคน ซึ่งในหลาย ๆ คนคิดว่า จะซื้อบ้านหรือเช่าบ้านดีกว่า ยังต้องมีประเด็นในการพิจารณาหลายประเด็นเพื่อดูตามความเหมาะสมดังนี้
ข้อดีของการเช่าบ้าน
1.จะมีความคล่องตัวในการย้ายที่อยู่มากกว่าการซื้อ และสามารถเปลี่ยนแปลงที่อยู่ได้ภายใน 1-2 เดือน
2. ไม่มีภาระผูกพันในระยะยาว เหมือนการซื้อ
3. การเช่าบ้านมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนน้อยกว่า การผ่อนชำระในซื้อบ้าน
4. แต่ข้อเสียคือการเช่าบ้าน ท่านเช่าบ้านไปก็ปีก็ไม่มีเงินเก็บหรือมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง สมมติว่าท่านเช่าบ้านอยู่เดือนละ 6,000 บาท ค่าเช่าที่ท่านต้องชำระต่อปี เท่า 72,000 บาท ถ้าเช่า 10 ปี เท่ากับ 720,000 บาท ถ้าเช่า 20 ปี ค่าเช่าเท่ากับ 1,440,000 บาท
ข้อดีองการซื้อผ่อนบ้าน
1.การเช่าบ้านแม้จะมีความคล่องตัวในการย้ายที่อยู่มากกว่าการซื้อ และสามารถเปลี่ยนแปลงที่อยู่ได้ภายใน 1-2 และมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนน้อยกว่า แต่เดียวนี้การซื้อบ้านมือสองมีให้ท่านเลือกซื้อมากมาย ทั้งที่เจ้าของบ้านขายเอง และขายผ่านตัวแทนบริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าจะผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ หรือ ป้ายที่ขายติดขายตามซอย หมู่บ้านต่าง ๆ ฉะนั้น การซื้อก็สามารถที่จะทำได้ภายใน 1-2 เดือน เช่นกัน
2.การเช่าบ้าน หากท่านผ่อนไปจำนวน 10 ปี หรือ 20 ปี ท่านไม่ได้อะไรเลย ตรงกันข้ามหากท่านผ่อนบ้าน ถ้าท่านผ่อนค่างวดบ้านไปจำนวน 20 ปี จำนวนเงิน 1,440,000 บาท สมมติว่าเงินต้นจำนวน 1,000,000 บาท ท่านผ่อนธนาคารเพียงเดือนละ 6,100 บาท ท่านจะเหลือเงินต้นเพียง 490,000 บาท แต่สิ่งที่ท่านจะได้มากกว่านั้น ราคาบ้านของท่านจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2,000,000 บาท หรือประมาณ 100 เปอร์เซ็นต์ หากท่านขายบ้านในปีที่ 20 ท่านขายได้ในราคา 2 ล้านบาท หักเงินต้นเงินค้างอยู่จำนวน 490,000 บาทเศษ ท่านยังเหลือเงินอยู่อีก 1,500,000 บาทเศษ เท่ากับว่า จำนวนเงินที่ท่านผ่อนไป 20 ปี อยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งหมด ท่านไม่ได้เสียอะไรเลย ตรงกันข้ามได้อยู่บ้านฟรี ไม่ต้องเสียค่าเช่าจำนวน 20 ปี จะดีกว่าการเช่าบ้านอยู่ไหม
3.บางท่านอาจจะสงสัยว่าจะเป็นความจริงหรือ ผมขอยกตัวอย่างคุณถิรดา ลูกค้าของบริษัท โฮม ดี ดี จำกัด คนนี้ ซื้อบ้านที่หมู่บ้านเมฆฟ้าวิลล์ บางปู ตามลิงค์นี้ http://www.homedd.co.th/property_display.php?id=142300
ประมาณ 20 ปีที่ ผ่านมาราคาเพียง 750,000 บาท แต่ตอนนี้ราคาขายอยู่ที่ 1,550,000 บาท ราคาบ้านเพิ่มขึ้นมากว่า 100เปอร์เซ็นต์
4.คุณถิรดา ซื้อบ้านมือสองของบริษัทในราคา 1,550,000 บาท ไปยื่นกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ บริษัทที่คุณถิรดาทำงานอยู่มีสัญญากับธนาคารอาคารสงเคราะห์ คุณถิรดาได้อัตราดอกเบี้ยจากธนาคารเพียงร้อยละ 3 บาทต่อปี เป็นจำนวน 7 ปี และผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารเพียงเดือนละ 7,500 บาท หากท่านไปเช่าหมู่บ้านเมฆฟ้าวิลล์ บางปู ตอนนี้ ท่านจะต้องเสียค่าเช่าละประมาณเดือนละ 5,000 -6,000 บาท เท่ากับว่าคุณถิรดาต้องเพิ่มเงินผ่อนบ้านเพียง 2,000 บาทเศษ ผ่อนไป 30 ปี ก็ได้บ้านเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง
5.สำหรับผู้ที่สนใจซื้อบ้าน ผมแนะนำให้ซื้อบ้านผ่านตัวแทนจะดีกว่า เพราะบริษัทรับฝากขายบ้านจะทราบเงื่อนไขการปล่อยกู้ของธนาคารแต่ละแห่งดีกว่า และจะทำให้ท่านได้อัตราดอกเบี้ยถูกกว่า ทำให้ท่านประหยัดเงินไปได้เยอะ มากกว่าที่ท่าไปยื่นกู้ด้วยตัวเอง อย่างบริษัท โฮม ดี ดี จำกัด นอกจากจะติดต่อกับธนาคารอาคารสงเคราะห์แล้ว ยังเป็นพันธมิตรกับหลาย ๆ ธนาคาร เช่น ธนาคารยูโอบี ซึ่งหากลูกค้ายื่นผ่าน บริษัท โฮม ดี ดี จำกัด ธนาคารยูโอบี จะลดอัตราดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าเท่ากับหรือน้อยกว่าธนาคารอาคารสงเคราะห์อีก จะทำให้ท่านประหยัดเงินในการผ่อนค่างวดไปได้มากทีเดียว
6.สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำหรับประชาชนที่มีรายได้ (รายได้ไม่เกิน 25,000 บาท ต่อเดือน) อัตราดอกเบี้ย 2.75 – 3 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ 4 – ปี(แล้วแต่เงื่อนไขของธนาคาร กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้เงินตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2561 และสิ้นสุดระยะเวลาทำนิติกรรม วันที่ 28 ธันวาคม 2561