ธปท. คาดสินเชื่อรวมครึ่งปีหลังดีขึ้น ขณะที่เดือน มิ.ย.ขยายตัวได้ 7.3% ชี้เอ็นพีแอลยังไม่น่าห่วง เพราะความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น และธนาคารต่างๆ ก็ช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วยการยืดอายุหนี้ออกไป
นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองแนวโน้มสินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์ในครึ่งหลังปีนี้ มีโอกาสขยายตัวดีขึ้น หลังเดือน มิ.ย.เติบโต 7.3% จากความเชื่อมั่น และการลงทุนมีมากขึ้น แต่บริษัทขนาดใหญ่ยังคงรอการลงทุนจากภาครัฐ โดยมองว่าความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อจากการประเมินภาวะเศรษฐกิจ ในช่วง Q2 ปี 57 ต่ำสุด ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ต่อจากนี้ไปก็ค่อยฟื้นฟูขึ้น แต่ต้องติดตามปัจจัยภายนอก และภายในประกอบด้วย
โดยสินเชื่อรวมเมื่อเดือน มิ.ย. เติบโต 7.3% เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 10.9 ล้านล้านบาท หรือมีสินเชื่อใหม่ เพิ่มขึ้นประมาณ 4.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างมาก ขณะที่สินเชื่อของธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) มีอัตราขยายตัวได้สูงกว่าสินเชื่อรวม โดยเดือน มิ.ย. ขยายตัว 9.1% คิดเป็นวงเงินประมาณ 4 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่โตมาจาก ธ.กสิกรไทย
นอกจากนี้ ในส่วนสินเชื่อรายใหญ่ เดือน มิ.ย.ก็มีอัตราเติบโตประมาณ 3.9% ขณะที่สินเชื่อรายย่อย โต 8.8% ซึ่งนำโดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก
นางสาลินี ยังกล่าวถึงหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) โดยระบุว่า สถานการณ์ขณะนี้ค่อนข้างทรงตัว โดยสัดส่วน NPL เดือน มิ.ย.อยู่ที่ระดับ 2.3% เทียบกับเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 2.4% ซึ่งไม่น่าเป็นห่วง เพราะความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น และธนาคารต่างๆ ก็ช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วยการยืดอายุหนี้ออกไป
ไม่ได้ห่วงเรื่องหนี้ NPL ฐานะแบงก์ตอนนี้แข็งแกร่ง ผลกำไรก็ถือว่าค่อนข้างสูง ประกอบกับเงินกองทุนอยู่ระดับสูงในอัตรา 15%
โดยขณะนี้สิ่งที่ ธปท. ติดตามดูคือ ภาคท่องเที่ยว เนื่องจากยังไม่ได้ฟื้นตัวกลับมา ซึ่งในความเป็นจริงภาคท่องเที่ยวสามารถเห็นเงินสดที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจริงได้อย่างชัดเจน