นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัยเปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี ประเมินว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี หลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติและขยายตัวได้ตามศักยภาพอย่างต่อเนื่องซึ่งจะส่งผลดีต่อการวางแผนของผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระยะยาวรวมถึงการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชน
"ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ประเมินว่าสินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบปีนี้ขยายตัว 6-8% โดยสินเชื่อบ้านคงจะโตใกล้เคียงกันประมาณ5-6% ในแง่ยอดคงค้าง แต่ถ้าเป็นยอดปล่อยกู้ใหม่ ยอมรับว่าคงไม่โต แต่เรามองว่าเป็นโอกาสดีของผู้บริโภคในช่วงรอยต่อเศรษฐกิจฟื้น ราคาบ้านไม่แพง ดอกเบี้ยบ้านถูก ซึ่งใครวางแผนอยากมีบ้านก็เป็นจังหวะดี" นายกิตติ กล่าว
ทั้งนี้ จากการประเมินภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งหลังปี 2557 คาดว่าจะเติบโตกว่า 10% เทียบกับครึ่งปีแรกที่ขยายตัวติดลบ ซึ่งเป็นผลจากการเมืองที่นิ่งและภาครัฐประกาศแผนการลงทุนทำให้ความเชื่อมั่นภาคอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักและมีการเปิดโครงการใหม่ๆเพิ่มขึ้น
แม้สินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบในไตรมาส 2 นั้น สินเชื่อบ้านที่เป็นการปล่อยกู้ใหม่จะหดตัวถึง 10.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมียอดคงค้างสินเชื่อบ้านในครึ่งปีแรกอยู่ที่2.5 ล้านล้านบาท แต่แนวโน้มครึ่งปีหลังที่สถานการณ์ดีขึ้น ผู้บริโภคมีการตัดสินใจโอนบ้านมากขึ้นทำให้ทั้งปีสินเชื่อบ้านทั้งระบบจะฟื้นกลับมาทรงตัว โดยมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า5 แสนล้านบาท
นายกิตติ กล่าวอีกว่า ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้ทำการสำรวจดัชนีราคาอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งแรกของปี2557 ในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.)นนทบุรี และสมุทรปราการ พบว่า ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวสูงขึ้น 3.2% ทาวน์เฮาส์เพิ่มขึ้น 3% และห้องชุดเพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับรายงานของ ธปท. ที่ระบุว่า ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย ณ เดือน มิ.ย. 2557 บ้านเดี่ยวปรับขึ้น 4.8% ทาวน์เฮาส์เพิ่มขึ้น 8.3%ห้องชุดเพิ่มขึ้น 9.8% และที่ดินราคาเพิ่มขึ้น 11.1%
