สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย

2014-08-20

ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างโต 5-6% พร้อมเร่งจัดงานระบายสต็อกบ้านเก่าและบ้านใหม่ ชี้ดอกเบี้ยต่ำเอื้อลูกค้าซื้อบ้านใหม่ แบงก์ระบุผู้ประกอบการรายกลาง-รายเล็กยังแข็งแรง มีพื้นที่ในการแข่งขันของตัวเอง โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด

ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกชะลอตัว แต่ภายหลังที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช .เข้ามาบริหารประเทศ และได้ออกนโยบายในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังตลาดที่อยู่อาศัยจะเริ่มฟื้นตัว

นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า ไตรมาส 2 สินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่หดตัว 10.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่การเมืองที่ดีขึ้น ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 75% สูงสุดในรอบ 8 เดือน ทำให้ครึ่งปีหลังเชื่อว่าความต้องการสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% เมื่อรวมกับช่วงครึ่งแรกของปีแล้วคาดว่าตลอดทั้งปีสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่จะทรงตัว จากปีก่อนที่เติบโตมากกว่า 10% หรือมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ 5 แสนล้านบาท ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ราว 5-6%

"ขณะนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีที่จะซื้อบ้านเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่เศรษฐกิจยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง 3-5 ปีจากนี้ ความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นทำให้ผู้ประกอบการเริ่มวางแผนระยะยาวมากขึ้น"

ชงคสช.ลดค่าจดจำนอง-โอนกรรมสิทธิ์

นายกิตติ กล่าวว่าส่วนกรณีที่ คสช. เตรียมนำภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาใช้แทนภาษีโรงเรือน ควรใช้โอกาสนี้เปลี่ยนแปลงการจัดเก็บภาษีการซื้อ-ขายเปลี่ยนมือที่อยู่อาศัย อาทิ ค่าจดจำนองที่อยู่อาศัย ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ฯ ในอัตราที่ถูกลง เพื่อให้การซื้อขายที่อยู่อาศัยทำได้ง่ายขึ้น ที่อยู่อาศัยจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องมากขึ้น โดยที่ผ่านมาการซื้อ-ขายบ้านทำได้ยากมาก เพราะมีค่าใช้จ่ายค่าภาษีในอัตราสูง ประชาชนบางส่วน ต้องเปลี่ยนที่ทำงาน แต่ไม่สามารถซื้อบ้านใกล้ที่ทำงานได้ เพราะหากขายบ้านหลังเก่าต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาสูงมาก ดังนั้นในช่วงที่ คสช. มีอำนาจในการตัดสินใจควรถือโอกาสนี้เปลี่ยนแปลงการจัดเก็บภาษีดังกล่าวใหม่

ยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ปีนี้1แสนล้าน

ด้านนางพิกุล ศรีมหันต์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สาย สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อธุรกิจรายย่อย ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปียอดสินเชื่อปล่อยใหม่อยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ปล่อยได้ 6 หมื่นล้านบาท โดยยังคงเป้าหมายสินเชื่อปล่อยใหม่ในปีนี้ที่ระดับ 1 แสนล้านบาท แต่คาดว่าจะปล่อยได้จริงถึง 1.1 แสนล้านบาท ส่วนสินเชื่อสุทธิในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 2.5 หมื่นล้านบาท ทำให้พอร์ตสินเชื่อสิ้นปีนี้อยู่ที่ 5.2 แสนล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่มี 4.87 แสนล้านบาท ส่วนเป้าหมายที่จะปล่อยสินเชื่อในงานนี้อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายการขายเอ็นพีเอปีนี้อยู่ที่ 3-4 พันล้านบาท จากพอร์ตเอ็นพีเอที่มีอยู่ 5 พันล้านบาท

เชื่อรายกลาง-เล็กยังมีโอกาสโต

สำหรับตลาดผู้ประกอบการรายกลางและเล็ก ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยธนาคารให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการทุกขนาด เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ขณะที่โอกาสในการเติบโตของรายกลางและรายเล็กยังมีอยู่มาก จะเห็นว่า ตลาดสินเชื่อบ้านปีนี้ ที่คาดจะปล่อยใหม่ได้ถึง 5.7 แสนล้านบาท ส่วนแบ่งตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์มี 60% ที่เหลืออีก 40% เป็นของผู้ประกอบการรายกลางและเล็ก จึงยังมีโอกาสขยายตัวได้อีก

"ผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าไปรุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น แต่ยังอยู่ในคอนโดมิเนียมเป็นหลัก ส่วนผู้ประกอบการในพื้นที่ ยังคงเน้นตลาดแนวราบมากกว่าตลาดคอนโด ขณะนี้ อสังหาแนวราบในต่างจังหวัด ยังเติบโตได้เป็นปกติ เพราะสร้างไปขายไป และผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ จะรู้จักความต้องการของตลาดเป็นอย่างดี ก็ยังเติบโตไปได้"

มั่นใจศักยภาพ"กลาง-เล็ก"สู้รายใหญ่ได้

ด้านนางพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารยังคงปล่อยสินเชื่อบ้าน สำหรับโครงการจากทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ รวมถึงรายกลางและรายเล็ก เพราะธนาคารมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อธุรกิจ หรือปล่อยให้กับโครงการที่สร้างใหม่ ซึ่งความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการรายกลางและรายเล็ก ไม่ได้ด้อยไปกว่ารายใหญ่ เพราะส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัดที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่มานาน แม้รายใหญ่จะเริ่มเข้ามาไปแข่งขันมากขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แต่ก็อยู่ในตลาดคอนโดมิเนียมเป็นหลัก

ก่อนหน้านี้สินเชื่อของธนาคาร มาจากต่างจังหวัดสัดส่วน 60% ที่เหลือเป็นกรุงเทพฯ แต่ขณะนี้การเติบโตของตลาดคอนโดในกรุงเทพฯ มีมากขึ้น ทำให้สัดส่วนเริ่มเปลี่ยนเป็น 50:50

เริ่มเห็นสัญญาณการขอสินเชื่อมากขึ้น

ส่วนนายอลงกต บุญมาสุข ผู้บริหารฝ่ายบริการผลิตภัณฑ์และการตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสายงานธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายบริการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ช่วงครึ่งหลังของปีมีแนวโน้มสินเชื่อบ้านเติบโตจากครึ่งแรก โดยเริ่มเห็นสัญญาณการใช้สินเชื่อมากขึ้นในเดือนก.ค. ที่ผ่านมา โดยครึ่งแรกของปีธนาคารปล่อยสินเชื่อบ้านประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท ทั้งปีคาดจะปล่อยได้ 4.8 หมื่นล้านบาท เติบโต 6-8% จากสิ้นปี 2556 ที่มียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 2.3แสนล้านบาท

"ไตรมาส 3-4 สัญญาณเริ่มกลับมา ผู้ประกอบการมีแบ็คล็อกเยอะ โดยเฉพาะคอนโดสร้างเสร็จรอโอนไตรมาส 3-4 จะเข้ามามาก และความเชื่อมั่นที่กลับมา ส่วนแนวราบทั้ง บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์กลับมาเปิดใหม่ครึ่งปีหลังมากขึ้น"

สำหรับภาพรวมสินเชื่อบ้านทั้งระบบนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เคยคาดการณ์ไว้ที่ 5.6-5.7 แสนล้าน เติบโต 6-8% ตามการขยายตัวของจีดีพีที่คาดว่าจะ โดยขณะนี้เติบโตมา 45% แล้ว จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและความต้องการสินเชื่อทุกภาคส่วนที่กลับมาทำให้มีโอกาสที่จะเติบโตได้มากกว่าที่คาดไว้

ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 21-24 ส.ค.ที่จะถึงนี้ จะมีการจัดงานมหกรรมบ้าน-คอนโดฯ และสินเชื่อแห่งปี “NPA & RESALE HOME 2014” มหกรรมอสังหาริมทรัพย์และบ้านมือสอง “HOME LOAN & CONSUMER CREDIT 2014” มหกรรมสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคล และงาน HOME BUYERS’ EXPO 2014” มหกรรมเลือกซื้อบ้าน-คอนโดฯ ภายใต้หัวข้อ “ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่อาศัยฟื้น บริษัทอสังหาริมทรัพย์ เร่งขายสต็อกเก่า ลุยเปิดโครงการใหม่ แบงก์พร้อมปล่อยสินเชื่อ หลังการเมืองนิ่งเดินหน้าเข้าสู่โรดแมพ" ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 300 โครงการ บ้านมือสอง บ้านเอ็นพีเอ จาก 7 สถาบันการเงินและ 1 บริษัทบริหารสินทรัพย์ โดยคาดว่ายอดขายภายในงานจะไม่ต่ำไปกว่าปีที่ผ่านมาที่มีการขอสินเชื่อ 11,750 ล้านบาท และยอดซื้อเอ็นพีเอ 3,392 ล้านบาท

Coppyright by www.homedd.co.th
โทรศัพท์ 0-2395-2045 โทรสาร 0-2702-8495
เลขที่ 43 ชั้น 1 ถนนศรีสมุทร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองฯ สมุทรปราการ 10270