ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ผู้บริหารธนาคารมองเศรษฐกิจขยายตัวหากรัฐเบิกจ่ายงบประมาณเข้าเป้า จับตาเฟดขึ้นดอกเบี้ยกระทบอัตราแลกเปลี่ยน แนะภาครัฐใช้จ่ายกระตุ้นเอกชนลงทุน แนวโน้มครึ่งปีหลังมีสัญญาณดี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร ท่องเที่ยว ชี้ปัจจุบันเสี่ยงยังเป็นส่งออกและหนี้ครัวเรือน
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2558 นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มสินเชื่อปี 2558 อาจเติบโตที่ระดับ 6% จากที่ประมาณการไว้ 8% จากสินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อรายย่อย ลดต่ำลงเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำส่งผลให้กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่มีเงินหมุนเวียนสูงใช้การระดมทุนจากการปล่อยหุ้นกู้มากกว่าการขอสินเชื่อในส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจหากอานิสงส์จากการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ จะเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้ 3% ทั้งนี้ ภาคธนาคารพาณิชย์ของไทยยังสามารถให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แม้กลุ่มลูกค้าประเภทเอสเอ็มอีจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและเศรษฐกิจไทยที่เจอวิกฤตการเมืองอย่างหนักเมื่อปีก่อนแต่ภาคธนาคารพาณิชย์ได้มีนโยบายผ่อนผัน
นายบุญทักษ์กล่าวว่า สำหรับตลาดเงินตลาดทุนในครึ่งหลังปี 2558 ยังต้องจับตาเศรษฐกิจสหรัฐที่เริ่มดีขึ้น โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนเกิดความผันผวน และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทย เชื่อว่าปีนี้จีดีพีของไทยจะเติบโตที่ระดับ 2.8-3% ในส่วนภาคสินเชื่อเติบโตที่ประมาณ 5-6% ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกระทั่งปัจจุบัน คาดว่าจะชะลอลงในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหากเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว
นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า อยากเห็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐเพื่อกระตุ้นการลงทุนเอกชนมากขึ้นอีก ซึ่งรัฐบาลควรคิดโจทย์เพิ่มเติมกระตุ้นการใช้จ่ายให้มากขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการเกิดความเชื่อมั่นที่จะลงทุนสำหรับแนวโน้มสินเชื่อรวมในไตรมาส 2 ปี 2558 จะขยายตัวได้มากกว่าไตรมาส 1 ปี ที่ระดับ 2% โดยเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังหากมีการขยายตัวได้ดีขึ้นจริงจะส่งผลให้สินเชื่อรวมทั้งปีขยายตัวมากกว่าเป้าหมาย6%
นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลังมีสัญญาณเริ่มดีขึ้นจากสัญญาณร้านสะดวกซื้อมีการขยายตัวกลับมาเป็นบวก ในภาคธุรกิจบางธุรกิจเริ่มกลับมาโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเริ่มเห็นการฟื้นตัวมากขึ้น ทำให้คาดว่าจีดีพีทั้งปีจะเติบโตที่ระดับ 3% จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมกลุ่มดังกล่าวและภาคการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงยังคงเป็นปัญหาการส่งออก และหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ดังนั้น ภาคธนาคารจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์เพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้อยู่รอด ในส่วนสินเชื่อของธนาคารกำลังอยู่ระหว่างการปรับเป้าจากเดิมคาดว่าจะเติบโตที่ระดับ 4-5%