ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ คาดจีดีพีปีนี้โต 3.1% หลังได้แรงฉีดช่วยรากหญ้า อัดงบอุ้มเอสเอ็มอี

2015-09-11
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3.1% หลังได้แรงส่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกองทุนหมู่บ้านและเงินอัดฉีดช่วยเอสเอ็มอี ส่วนปีหน้าคาดโตถึง 4.5% เหตุเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้น ส่งออกดีขึ้น คาดโตไม่ต่ำกว่า 5.3% และยังมีเม็ดเงินลงทุนรออยู่ไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ฯ ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยใหม่ โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2558 จะเติบโต 3.1% ลดลงจากการประมาณการเดิมเมื่อเดือน เม.ย. 2558 ที่คาดว่าจะโต 3.2% แต่ถือเป็นการคาดการณ์ที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากที่ประเมินกันว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตแค่ 2.5-2.9% หรือเป็นการประเมินก่อนช่วงที่รัฐบาลจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) และการอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจผ่านกองทุนหมู่บ้านรวม 1.3 แสนล้านบาทออกมา

ทั้งนี้ เงินกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 1.3 แสนล้านบาทจะลงสู่ระบบเศรษฐกิจได้ภายในเดือน ต.ค. 2558 คาดว่าจะหมุนได้ 1 รอบ หรือเป็นเงิน 2.6 แสนล้านบาท ทำให้ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 จะเติบโต 4% และส่งผลให้เศรษฐกิจทั้งปี 2558 น่าจะเติบโตได้ 3.1% แต่หากเม็ดเงินที่รัฐบาลใช้กระตุ้นเศรษฐกิจลงไปในระบบเศรษฐกิจช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตต่ำกว่า 3% หรือเติบโตเหลือ 2.8% เท่านั้น

ส่วนการให้ธนาคารออมสินปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 1 แสนล้านบาท และให้บรรษัทสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันเงินกู้ให้แก่เอสเอ็มอีอีก 1 แสนล้านบาท จะทำให้ธนาคารพาณิชย์กล้าปล่อยเงินกู้ให้เอสเอ็มอี จากเดิมเอสเอ็มอีประสบปัญหาเงินทุนหมุนเวียน และแบกรักภาระได้อีก 3-6 เดือน แต่เมื่อมีเงินเข้ามาช่วยเหลือก็จะทำให้ไม่ต้องปิดกิจการ และเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้

นายธนวรรธน์กล่าวว่า สำหรับการส่งออกปี 2558 ประเมินว่ายังติดลบ 4.8% จากเดิมที่คาดว่าขยายตัว 0.4% เพราะภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจของจีน อัตราเงินเฟ้อทั้งปีติดลบ 0.6% จากเดิมคาดว่าขยายตัว 0.5% จำนวนนักท่องเที่ยว 29 ล้านคน จากเดิมคาดว่า 28.2 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยว 1.4 ล้านล้านบาท จากเดิมคาดว่า 1.3 ล้านล้านบาท

ส่วนปี 2559 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 1 และฟื้นตัวเด่นชัดภายในไตรมาส 2 ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีหน้าขยายตัวในกรอบ 3.9-4.5% โดยมีโอกาสเติบโตสูงสุดถึง 4.5% เนื่องจากจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในระบบเศรษฐกิจปีหน้าเพิ่มอีก 5 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุน 4 จี 1 แสนล้านบาท การลงทุนระบบลอจิสติกส์ 2 แสนล้านบาท และการลงทุนผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงการลงทุนของภาคเอกชนอีก 2 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ รายได้จากการส่งออกจะเพิ่มขึ้นมาจากการที่การส่งออกปีหน้าจะเติบโต 5.3% เป็นผลจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว และค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามากขึ้นหรือเฉลี่ยในกรอบ 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เป็นผลดีต่อการส่งออกไทย ประกอบกับการส่งออกในปีนี้ฐานต่ำ ทำให้ปีหน้าจึงน่าจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้นมาก

ทั้งนี้ ยังคาดว่าระดับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะเฉลี่ยอยู่ที่ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบ 1.4% ซึ่งยังทรงตัวต่ำตามระดับราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวคาดว่าอยู่ที่ 1.55 ล้านล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยว 31.35 ล้านคน ขณะที่รายได้ภาคเกษตรกรรมจะปรับตัวดีขึ้นจากราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นตามภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้ภาคเกษตรกรรมติดลบ 8-10%

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในปี 2559 ยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องความไม่แน่นอนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก สัดส่วนหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง สถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และค่าครองชีพยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เป็นต้น
Coppyright by www.homedd.co.th
โทรศัพท์ 0-2395-2045 โทรสาร 0-2702-8495
เลขที่ 43 ชั้น 1 ถนนศรีสมุทร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองฯ สมุทรปราการ 10270